Face Recognition คืออะไร และทำไมถึงสำคัญกับการทำธุรกิจ | AI GEN
BLOG - Face Recognition คืออะไร และทำไมถึงสำคัญกับการทำธุรกิจ | AI GEN

Face Recognition คืออะไร และทำไมถึงสำคัญกับการทำธุรกิจ

13 ก.ย. 2564 01:47 น.

เมื่อคุณโพสต์รูปบนเฟสบุค เฟสบุคจะทำการแท็กคนที่อยู่ในรูปโดยอัตโนมัติ คุณอาจจะไม่ได้ทันสังเกตถึงเทคโนโลยีที่อยู่เบื้องหลังความสะดวกสบายนี้ อย่างไรก็ตามเมื่อคุณค้นพบว่าเทคโนโลยี Facial Recognition หรือเทคโนโลยีจดจำใบหน้าสามารถติดตามคุณได้โดยที่ไม่ได้รับอนุญาตในขณะที่คุณกำลังเดินอยู่บนถนนแห่งหนึ่งในกรุงเทพ ซึ่งอาจจะทำให้มีคำถามในเรื่องของการรุกล้ำความเป็นส่วนตัวของการนำเทคโนโลยีนี้มาใช้ ซึ่งเหมือนกับเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นใหม่ๆโดยทั่วไปที่มีทั้งข้อดี และข้อเสียในการนำมาใช้งาน 

ในปัจจุบันเทคโนโลยี Facial Recognition ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางทั่วโลก ตั้งแต่การปลดล็อกสมาร์ทโฟน การสแกนใบหน้าเพื่อเข้าออฟฟิซ หรือแม้กระทั่งการยืนยันตัวตนในการทำธุรกรรมต่างๆ ต่างก็ใช้เทคโนโลยีการจดจำใบหน้าทั้งสิ้น 

วันนี้ AI GEN จะพามาทำความรู้จักกับเทคโนโลยี Facial Recognition พร้อมทั้งวิธีการทำงาน และประโยชน์จากการนำเทคโนโลยีนี้มาใช้งานกันมากยิ่งขึ้น

Facial Recognition คืออะไร

3-7.png (223 KB)ภาพประกอบ : Canva

เทคโนโลยีการจดจำใบหน้า หรือ Facial Recognition คือการนำเทคโนโลยี Biometrics มาใช้ในการแยกแยะลักษณะต่างๆบนใบหน้าของมนุษย์เพื่อใช้ในการระบุตัวตนของบุคคลนั้นๆ โดยมีผลวิจัยจาก Allied Market Research ได้คาดการณ์ว่าตลาดของเทคโนโลยี Facial Recognition จะมีมูลค่าเติบโตถึง 9,600 ล้านดอลล่าร์สหรัฐภายในปี 2022 นี้ โดยในปัจจุบันเทคโนโลยีการจดจำใบหน้าถูกนำมาใช้ในหลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่การปลดล็อก การผ่านด่านตรวจความปลอดภัยที่สนามบิน การซื้อของที่ซุปเปอร์มาร์เก็ต และในกรณีของการให้ความบันเทิง นักร้องชื่อดังอย่าง Taylor Swift ได้นำเทคโนโลยี Face Recognition มาช่วยติดตามว่ามีผู้ไม่ประสงค์ดีได้มาที่ประตูคอนเสิร์ต Rose Bowl ของเธอหรือไม่ 

เราอยู่ในยุคที่ท่วมท้นไปด้วยจำนวนข้อมูลมหาศาล จำนวนรูป และวิดีโอที่มีอยู่เป็นจำนวนมากทำให้เทคโนโลยี Facial Recognition สามารถทำงานได้ดี เนื่องจากระบบ Facial Recognition ได้ทำการวิเคราะห์ข้อมูลรูปภาพที่มีอยู่ จากรูปภาพและวิดีโอที่มีคุณภาพสูงที่ได้มาจากกล้องวงจรปิด (CCTV) ที่มีติดอยู่ทั่วทุกมุมเมือง รวมทั้งภาพจากสมาร์ทโฟน โซเชียลมีเดีย และกิจกรรมทางออนไลน์อื่นๆ โดยความสามารถของ Machine Learning และ Artificial Intelligence ในซอฟต์แวร์ต่างๆ สามารถที่จะทำความเข้าใจความแตกต่างของลักษณะต่างๆบนใบหน้าได้โดยใช้สูตรทางคณิตศาสตร์ หลังจากนั้นระบบจะมองหาแพทเทิร์นในข้อมูลรูปภาพที่มีอยู่ และเปรียบเทียบรูป และวิดีโอที่ได้มาใหม่กับข้อมูลเดิมที่ถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล เพื่อที่จะสามารถระบุตัวตนของแต่ละบุคคลได้

Facial Recognition มีวิธีการทำงานอย่างไร

โดยทั่วไประบบ Facial Recognition ของแต่ละเจ้าก็จะมีวิธีการทำงานที่แตกต่างกันออกไปซึ่งมักจะถูกสร้างขึ้นจากอัลกอริทึ่มของแต่ละเจ้าเอง แต่โดยทั่วไปเราสามารถจัดลำดับขั้นตอนการทำงานของเทคโนโลยี Facial Recognition ได้เป็น 3 ประเภทของเทคโนโลยีพื้นฐาน

1.การตรวจจับใบหน้า (Detection) 

5-4.png (166 KB)ภาพประกอบ : Canva

เป็นกระบวนการค้นหาใบหน้าบนรูปถ่ายต่างๆ ถ้าคุณเคยใช้กล้องที่สามารถตรวจจับใบหน้าได้ และขึ้นเป็นรูปกล่องสี่เหลี่ยมเล็กๆขึ้นมาตรงใบหน้าเมื่อใช้โหมด Auto-focus คุณจะได้เห็นถึงกระบวนการทำงานของจริงของขั้นตอนนี้ ในขั้นตอนนี้ไม่ได้เป็นการกระทำที่เลวร้าย หรือผิดกฎหมาย เนื่องจากการตรวจจับใบหน้าเป็นเพียงการค้นหาใบหน้าเท่านั้น ไม่ได้มีการระบุตัวตนว่าบุคคลนั้นเป็นใคร

2.การวิเคราะห์ หรือสิ่งบ่งชี้ (Analysis หรือ Attribution)

6-4.png (194 KB)ภาพประกอบ : Canva

เป็นขั้นตอนการร่างใบหน้า ซึ่งปกติจะทำโดยการวัดระยะห่างระหว่างดวงตา รูปร่างของคาง ระยะห่างระหว่างจมูกจนถึงปาก และหลังจากนั้นจะทำการเปลี่ยนสิ่งเหล่านี้ให้เป็นตัวเลข หรือจุดต่างๆ มักจะเรียกขั้นตอนนี้ว่า “Faceprint” หรือการสร้างโมเดลอ้างอิง โดยฟิลเตอร์ของ Instagram หรือของ Snapchat ที่ตลกๆที่คนมักชอบใช้เล่นกันนั้นก็ใช้เทคโนโลยีตัวเดียวกัน และถึงแม้ว่าในขั้นตอนนี้อาจจะเจอกับปัญหาความผิดพลาดเล็กๆน้อยๆที่เกิดจากระบบได้ โดยส่วนใหญ่แล้วจะเกี่ยวข้องกับเรื่องการแยกแยะภาพที่ผิด ซึ่งถือเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นได้ทั่วไปเมื่อ Faceprint ได้ถูกเพิ่มเข้าไปในฐานข้อมูลของการจำแนกใบหน้า

3.การจำแนกใบหน้า (Recognition) 

2-5.png (181 KB)ภาพประกอบ : Canva

เป็นการหาวิธีที่จะยืนยันว่าบุคคลในรูปนี้คือใคร กระบวนการนี้ได้ใช้ในการขั้นตอนการยืนยันตัวตน เช่นฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยบนโทรศัพท์สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ๆ หรือเป็นการระบุตัวตนที่ใช้เป็นวิธีในการตอบคำถาม บุคคลในรูปนี้คือใคร? 

ประโยชน์ที่ธุรกิจจะได้รับจากการใช้เทคโนโลยี Facial Recognition

นอกเหนือจากประโยชน์เรื่องการปลดล็อกสมาร์ทโฟนแล้ว เทคโนโลยี Face Recognition มีประโยชน์กับธุรกิจในหลากหลายด้านดังต่อไปนี้

1.ยกระดับเรื่องความปลอดภัย

เริ่มจากเรื่องแรก คือการตรวจตราความปลอดภัย ด้วยความช่วยเหลือของเทคโนโลยี Facial Recognition ทำให้การติดตามเรื่องขโมย การลักทรัพย์ รวมทั้งผู้บุกรุกต่างๆสามารถทำได้ง่ายมากยิ่งขึ้น และเมื่อพูดถึงในระดับประเทศ ระบบ Facial Recognition สามารถช่วยระบุตัวตนของผู้ก่อการร้าย หรือผู้ทำผิดกฎหมายอื่นๆเพียงใช้แค่การสแกนใบหน้าเท่านั้น นอกจากนั้นประโยชน์ที่ได้เพิ่มเติมคือไม่สามารถมีใครสามารถแฮ็กเทคโนโลยีนี้ได้ เนื่องจากไม่มีข้อมูลอะไรที่สามารถขโมยไปได้ เนื่องจากใบหน้าเป็นลักษณะเฉพาะบุคคล ไม่เหมือนกับข้อมูล Password ที่สามารถถูกขโมย หรือแฮ็กได้

สำหรับการใช้งานส่วนบุคคลนั้น เทคโนโลยี Facial Recognition สามารถใช้เป็นเครื่องมือในการรักษาความปลอดภัยสำหรับการปลดล็อคโทรศัพท์ และกล้องวงจรปิดส่วนตัวได้

2.การประมวลผลที่มีความรวดเร็ว

กระบวนการในการจำแนกใบหน้านั้นใช้เวลาแค่หลักวินาที หรือน้อยกว่านั้นซึ่งถือเป็นประโยชน์หลักที่ธุรกิจจะได้รับจากการนำเทคโนโลยี Facial Recognition มาปรับใช้

ในยุคที่มีภัยคุกคามทางอินเตอร์เน็ตอย่างต่อเนื่อง รวมถึงเครื่องมือแฮ็คกิ้งที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง บริษัทยิ่งต้องการเทคโนโลยีที่จะเข้ามาช่วยในเรื่องนี้ที่ต้องมีทั้งความรวดเร็ว และความปลอดภัยสูง เมื่อพิจารณาถึงเทคโนโลยี Facial Recognition เรียกได้ว่าตอบโจทย์ในเรื่องนี้ เนื่องจากสามารถประมวลผลได้แบบทันที มีความรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพสูงในการยืนยันตัวตน และมากไปกว่านั้นเป็นเรื่องยากมากที่จะสามารถหลอกระบบได้ ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งประโยชน์ที่สำคัญของเทคโนโลยี Facial Recognition

3.เชื่อมต่อกับระบบอื่นๆได้อย่างง่ายดาย

ข้อนี้ถือเป็นประโยชน์ที่สำคัญที่สุดสำหรับบริษัท เนื่องจากเทคโนโลยี Facial Recognition นั้นสามารถเชื่อมต่อกับระบบอื่นๆได้ง่าย จึงถือเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับองค์กรต่างๆ และยังไม่ต้องลงทุนเพิ่มเติมในการเชื่อมต่อระบบ นอกจากนั้นระบบ Facial Recognition นั้นได้ถูกออกแบบมาให้สามารถทำงานร่วมกับซอฟต์แวร์ระบบรักษาความปลอดภัยต่างๆได้อยู่แล้ว

4.การระบุตัวตนแบบอัตโนมัติ

แต่เดิมนั้นพนักงานรักษาความปลอดภัยต้องใช้ความสามารถในการจดจำใบหน้า เพื่อที่จะสามารถระบุตัวตนของแต่ละบุคคลได้ ซึ่งแน่นอนว่าความจำของมนุษย์นั้นมีจำกัด และต้องใช้เวลาในการจดจำ ซึ่งส่งผลต่อความแม่นยำที่อาจจะไม่ได้มีมากนัก แต่ในปัจจุบันเทคโนโลยี Facial Recognition สามารถทำสิ่งนี้ได้ด้วยตัวระบบเองในกระบวนการการยืนยันตัวตน และไม่เพียงแต่ใช้เวลาไม่กี่วินาทีเท่านั้น ยังมีความแม่นยำสูงอีกด้วย

ด้วยเทคโนโลยี Facial Recognition แบบ 3 มิติ และการนำกล้องอินฟราเรดมาใช้งานทำให้การแม่นยำในการยืนยันตัวตนเพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ และทำให้ไม่สามารถหลอกระบบได้อย่างแน่นอน

aiFace Banner 2.png (80 KB)

สรุป

ในปัจจุบันเทคโนโลยี Facial Recognition ได้ถูกนำมาใช้อย่างกว้างขวางทั้งการใช้งานในชีวิตประจำวัน และการใช้งานในภาคธุรกิจ รวมถึงภาครัฐเองที่ได้นำระบบ Facial Recognition มาใช้งานในการยืนยันตัวตนการใช้รับสวัสดิการต่างๆ ทำให้ผู้บริโภคเริ่มมีความคุ้นเคยกับเทคโนโลยีนี้ ดังนั้นธุรกิจที่ต้องการนำเทคโนโลยี Facial Recognition ไปปรับใช้กับธุรกิจตนเองนั้นสามารถศึกษาวิธีการนำไปใช้งานได้จากเคสทางธุรกิจที่หลากหลายที่มีอยู่ในปัจจุบัน และแน่นอนว่าเพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคในยุคดิจิทัลการนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่ออำนวยความสะดวกในการใช้สินค้า และบริการจะทำให้ธุรกิจนั้นๆมีความโดดเด่น และสร้างความแตกต่างในอุตสาหกรรมได้ในระยะยาว

 

อ้างอิง : Forbes, NYtimes,Becominghuman

 

บทความอื่น

แชทบอทคืออะไร? ตัวช่วยธุรกิจที่ขาดไม่ได้ในยุค Next normal

อ่านต่อ

รวม 4 เทคโนโลยี AI ใกล้ตัวกว่าที่คิด

อ่านต่อ

10 รูปแบบของการนำเทคโนโลยี AI ไปใช้ในภาคธุรกิจ

อ่านต่อ

This website uses cookies

We use cookies to improve user experience, personalize ads, and analyze our traffic. We also share information about your use of our site with our social media, advertising and analytics partners.