รวบรวม 10 แอปพลิเคชันชื่อดังที่มีเทคโนโลยี AI อยู่เบื้องหลัง | AI GEN
BLOG - รวบรวม 10 แอปพลิเคชันชื่อดังที่มีเทคโนโลยี AI อยู่เบื้องหลัง | AI GEN

รวบรวม 10 แอปพลิเคชันชื่อดังที่มีเทคโนโลยี AI อยู่เบื้องหลัง

17 ก.ย. 2564 03:44 น.

แอปพลิเคชันที่มีการนำเทคโนโลยี AI ไปประยุกต์ใช้ทำให้ธุรกิจสามารถที่จะวิเคราะห์ข้อมูล และทำให้ผู้ใช้งานหรือ User ติดอกติดใจ และสร้างประสบการณ์ส่วนบุคคลให้เกิดขึ้นได้

เทคโนโลยี AI เป็นได้ทั้งนวัตกรรมที่ดี และนวัตกรรมที่น่ากลัวในเวลาเดียวกัน ถ้ายังจำซีรีส์เรื่อง “Person of Interest” กันได้ ที่มีเครื่องจักรอันแสนชั่วร้ายที่ชื่อ Samaritan ในวงการของฮอลลีวู้ดมักทำให้เทคโนโลยีดูเป็นเรื่องที่แย่ ในทางกลับกันถ้าเป็นเรื่องของการพัฒนาแอปพลิเคชั่นบนมือถือ เทคโนโลยี AI ถือว่าเป็นเทคโนโลยีที่เข้ามาปฏิวัติวงการ โดยเฉพาะแอปพลิเคชันที่มีนำระบบ AI เข้ามาใช้จะเป็นผู้เล่นที่โดดเด่นในตลาด โดยการส่งมอบประสบการณ์ที่โดนใจให้กับผู้ใช้งาน และช่วยยกระดับประสบการณ์การใช้งาน

การนำเทคโนโลยี AI มาใช้งานกับแอปพลิเคชันในยุคปัจจุบัน ช่วยยกระดับประสบการณ์ของผู้ใช้งาน (Customer Experience) ให้ดียิ่งขึ้น แต่การนำระบบ AI ผสมผสานเข้ากับการทำงานของแต่ละแอปพลิเคชันไม่ได้สามารถถูกเสกขึ้นมาได้ ต้องอาศัยการค้นคว้าวิจัยมาเป็นอย่างดี มิเช่นนั้นแล้วอาจจะกลายเป็นสร้างความรำคาญให้กับผู้ใช้งานได้ 

ถ้าคุณกำลังหาไอเดียในการนำเทคโนโลยี AI ไปใช้กับแอปพลิเคชันของคุณ ในบทความนี้ AI GEN จะพามาทำความรู้จักกับ 10 แอปพลิเคชันที่มีเทคโนโลยี AI อยู่เบื้องหลังสำคัญ เพื่อให้ธุรกิจสามารถใช้เป็นแรงบันดาลใจในการนำไปสร้างสรรค์แอปพลิเคชันของตัวเองได้

แอปพลิเคชันที่มีการนำเทคโนโลยี AI มาใช้งาน

1.Google Socratic

เป็นโปรแกรมที่มีเทคโนโลยี AI เป็นพื้นฐานสำคัญที่ช่วยให้นักเรียน และอาจารย์เข้าใจคอนเซปพื้นฐานของแต่ละวิชา สิ่งที่โดดเด่นของ Google Socratic คือทำให้การถามคำถามเป็นเรื่องง่าย โดยนักเรียนที่มีแอปพลิเคชัน Google Socratic สามารถถ่ายรูปโจทย์คณิตศาสตร์ หรือถามคำถามผ่านทางสมาร์ทโฟน และ Google Socratic จะทำการแก้ไขปัญหานั้นๆให้โดยทันที

1.png (101 KB)

Google ได้นำอัลกอริทึ่ม AI มาใช้ในการช่วยตอบคำถามให้กับนักเรียนแต่ละคนด้วยการให้คำตอบ และแก้ไขโจทย์ที่ซับซ้อนผ่านทางการวิเคราะห์คำถามที่ถูกใส่เข้ามาในระบบ เมื่อมีนักเรียนถามคำถามเข้ามาอัลกอริทึ่มจะทำการวิเคราะห์ และตอบในสิ่งที่เกี่ยวข้องกับคอนเซปหลักที่มีอยู่

2.Netflix

ใครจะไม่ชอบดูซีรีส์ หรือหนังที่ตัวเองชอบแบบมาราธอนกันบ้าง? แต่ถ้าแพลตฟอร์ม Streaming หนังสามารถแนะนำคอนเทนต์ที่ถูกใจคุณได้ล่ะ? และสิ่งนี้เป็นเป้าหมายสำคัญของฟีเจอร์การแนะนำหนัง หรือซีรีส์ของ Netflix แค่นั้นยังไม่พอ Netflix ยังสามารถบอกได้ถึงจำนวนเปอร์เซ็นต์ที่แต่ละคอนเทนต์ที่เกี่ยวข้องกับโปรโฟล์ของคุณได้อีกด้วย

6.png (93 KB)

เพื่อให้เข้าใจฟีเจอร์อันน่าทึ่งได้มากขึ้น Netflix ได้ใช้รูปแบบ “Similarity Map” โดยอัลกอริทึ่ม AI จะทำการวิเคราะห์ถึงข้อมูลรายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับซีรี่ส์ หรือหนังเรื่องนั้นๆ (Metadata) เช่น ชื่อเรื่อง ชื่อผู้กำกับ ชื่อนักแสดง ปีที่ออกฉาย เป็นต้น รวมถึงแท็กซ์ (tags) และสิ่งที่เกี่ยวข้องกับหนัง หรือซีรี่ส์เรื่องนั้นๆ (embedding) เพื่อที่จะทำการตัดสินใจในการแนะนำคอนเทนต์ต่างๆให้กับผู้ใช้แต่ละคนของ Netflix

3.Spotify

Spotify ถือได้ว่าเป็นแอปพลิเคชันสตรีมมิ่งเพลงที่ดังที่สุดในโลกจากประเทศสวีเดน โดยสิ่งที่ดีที่สุดของ Spotify คือการแนะนำเพลง Spotify ได้มีการใช้ข้อมูลรายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับเพลงนั้นๆ (Metadata) เช่น ชื่อนักร้อง ชื่อนักแต่งเพลง ประเภทของเพลง แต่สิ่งที่แตกต่างกัน คือจำนวนของข้อมูล

7.png (104 KB)

Spotify ใช้ข้อมูลจากหลากหลายแหล่งข้อมูล ไม่ว่าจะเป็นบล็อกโพสต์, ข้อมูลบน Social media ที่มีการพูดถึงศิลปินคนนั้นๆ, นิตยสารเพลง เพื่อทำการเทรนข้อมูลให้กับระบบ AI สิ่งที่เราสามารถเรียนรู้ได้จาก Spotify คือการหาข้อมูลที่เกี่ยวข้องจากหลากหลายแห่งให้อัลกอริทึ่ม AI ได้เรียนรู้เพื่อนำมาใช้การพัฒนาแอปพลิเคชันให้ดียิ่งขึ้น และสามารนำเสนอคอนเทนต์เฉพาะบุคคลได้ 

4.Youper

2.png (61 KB)

เป็นแอปพลิเคชันในการดูแลรักษาสุขภาพจิตโดยใช้เทคโนโลยี AI ในการพัฒนาขึ้นมาจากประเทศสหรัฐอเมริกา Youper ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถจัดการอารมณ์ของตัวเองได้ในหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นโรคซึมเศร้า ความกังวล และอื่นๆ โดย Youper เป็นแอปพลิเคชั่นแชทบอทที่ใช้ความสามารถด้านการเข้าใจภาษาด้วยระบบประมวลภาษา (Natural Language Processing : NLP) และอัลกอริทึ่ม AI เพื่อให้แชทบอทสามารถเลียนแบบการสนทนาระหว่างมนุษย์กับมนุษย์ได้

5.Mubert

3-1.png (72 KB)

เป็นแอปพลิเคชันสตรีมมิ่งเพลงจากประเทศสหรัฐอเมริกา แต่ความแตกต่างของ Mubert จากแอปพลิเคชันสตรีมมิ่งเพลงอื่นๆคือ สามารถจัดเพลงให้ตรงกับอารมณ์ หรือกิจกรรมของคนฟังในเวลาขณะนั้นได้ ตัวอย่างเช่น Mubert สามารถช่วยให้คุณหลับด้วยเพลงที่ช่วยทำให้ง่วง โดยใช้อัลกอริทึ่มของ Machine Learning สำหรับการสร้างเพลย์ลิสต์ที่ไม่ซ้ำ และมีความต่อเนื่อง เหมือนกับเพลงซาวน์แทร็คที่ไม่มีวันจบ Mulbert ใช้เทคนิค Layering เป็นหัวใจสำคัญในการนำเสนอการเล่นเพลงได้แบบต่อเนื่อง

6.Wysa

4.png (77 KB)

เป็นแอปพลิเคชันผู้ให้ปรึกษาทางด้านจิตใจในรูปแบบเสมือนจริงโดยใช้เทคโนโลยี AI เป็นพื้นฐานสำคัญในการพัฒนา ใช้เทคนิคในการฟังอย่างเข้าใจ และเทคนิคการบำบัดโรค โดยช่วยให้ผู้ใช้งานได้ลองทำแบบฝึกหัด เช่น การทำสมาธิ และการพูดคุยกับ AI เพื่อที่จะจัดการปัญหาทางอารมณ์ต่างๆ Wysa มีอัลกอริทึ่มกว่า 100 ล้านของการสื่อสารระหว่างมนุษย์กับมนุษย์เพื่อนำมาพัฒนาเป็นแพทเทิร์นของการสื่อสารในรูปแบบต่างๆ โดยอัลกอริทึ่มจะใช้รูปแบบของพฤติกรรมมนุษย์ร่วมกับความคิดเห็นของจิตแพทย์ และผู้เชี่ยวชาญ เพื่อช่วยให้คำแนะนำกับผู้ใช้งาน

7.Acquisio

ถ้าคุณเป็นนักการตลาด Acquisio เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดที่จะช่วยทำให้ธุรกิจของคุณเติบโต Acquisio เป็นแพลตฟอร์มการซื้อโฆษณา Pay per click แบบอัตโนมัติโดยมีเทคโนโลยี AI เป็นผู้อยู่เบื้องหลัง แพลตฟอร์ม Aqcuiso เป็นมากกว่าแอปพลิเคชันทั่วไป เพราะ Acquisio มีชุดเครื่องมือ และบริการมากมายที่ช่วยทำให้ขั้นตอนในการทำงานอยู่ในรูปแบบอัตโนมัติ การสร้างต้นแบบแคมเปญโฆษณา รายงานของแต่ละช่องทางการตลาด การทำโฆษณาบน Social media การเชื่อมต่อกับซอฟต์แวร์ third party ผ่าน API รวมถึงการแสดงโฆษณาแบบอัตโนมัติ

10 app picture.png (94 KB)

Acquisio ได้ใช้เทคโนโลยี Machine learning ที่มีชื่อว่า Acquisio Turing ที่มีอัลกอรึที่มอันแสนชาญฉลาดถึง 30 ประเภท โดยเทคโนโลยีนี้ทำให้นักการตลาดสามารถตั้งค่าการประมูลโฆษณาได้แบบอัตโนมัติ และยังช่วยในเรื่องของการจัดการงบประมาณอีกด้วย

8.Magisto

เป็นแอปพลิเคชันสำหรับการตัดต่อวิดีโอที่มีฟีเจอร์ที่มี AI เป็นพื้นฐานสำคัญ Magisto ทำการวิเคราะห์ภาพ และเสียงของคุณโดยอัลกอริทึ่มของ AI เพื่อสร้างเรื่องราวที่สามารถแชร์ได้ โดยการวิเคราะห์ภาพทำการวิเคราะห์จากการเคลื่อนไหวของกล้อง การจดจำใบหน้า ความนิ่งของวิดีโอ และการตรวจจับวัตถุ

5.png (101 KB)

ในขณะเดียวกันการวิเคราะห์เสียงได้ทำการวิเคราะห์จากการจับคำพูด การแยกประเภทเสียง การวิเคราะห์ดนตรี Magisto มีให้บริการทั้งในรูปแบบบน Desktop และแอปพลิเคชันบนมือถือสำหรับใช้ในการตัดต่อวิดีโอผ่านอัลกอริทึ่ม AI ที่มีการใช้ข้อมูลรายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับวิดีโอนั้นๆ (Metadata)

9.Cortana

9.png (76 KB)

ถ้าคุณใช้ Windows 10 คุณคงจะคุ้นเคยกับ Cortana อยู่แล้ว เนื่องจาก Cortana ได้รวมอยู่ในฟังก์ชั่นค้นหาของระบบปฏิบัติการ Windows อยู่แล้ว Cortana เป็นผู้ช่วยเสมือนที่พัฒนาด้วยระบบ AI จาก Microsoft และ Cortana ไม่ได้ใช้ได้แค่บน Desktop เท่านั้น หลังจาก Microsoft ได้เพิ่มเติม Conversational AI หรือผู้ช่วยด้วยเสียงเข้าไปช่วยเพิ่มความสามารถให้กับ Cortana ให้สามารถใช้บนสมาร์ทโฟนได้

10.Cleo

เป็นแอปพลิเคชันที่ช่วยบริหารจัดการการเงิน ทั้งด้านของการลงทุน และค่าใช้จ่ายต่างๆ โดยได้มีการนำเทคโนโลยี AI มาเป็นเทคโนโลยีหลักในการบริหารจัดการการเงินแบบอัตโนมัติ สิ่งที่คุณต้องทำมีเพียงทำการ   ดาวน์โหลดแอปพลิเคชันเข้ามาในสมาร์ทโฟน เชื่อมต่อกับบัญชีธนาคารของคุณ และ Cleo จะเริ่มทำการติดตามกิจกรรมทางการเงินของคุณโดยอัตโนมัติ

10.png (79 KB)

ในขั้นตอนต่อไป Conversational AI หรือผู้ช่วยด้วยเสียงจะทำการสื่อสารถึงคุณผ่านทางแอปพลิเคชันเอง หรือผ่านทาง Facebook messenger เพื่อให้คำแนะนำในเรื่องการเงิน หรือให้ความช่วยเหลือในด้านอื่นๆ Cleo มีการนำความปลอดภัยในระดับสูงที่ธนาคารส่วนใหญ่ใช้กันมาใช้ในการให้บริการ เพื่อให้ผู้ใช้งานมั่นใจได้ว่าข้อมูลทางการเงินของผู้ใช้งานมีความปลอดภัยอย่างแน่นอน

1-6.png (127 KB)

สรุป

เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI ถือเป็นนวัตกรรมที่ช่วยให้ธุรกิจต่างๆสามารถนำเสนอประสบการณ์แบบส่วนบุคคล (Personalization) ให้กับผู้ใช้งานได้ไม่ว่าจะใช้งานผ่านทางแอปพลิเคชัน หรือซอฟต์แวร์ ความสามารถของแอปพลิเคชันที่มีเทคโนโลยี AI เป็นผู้ขับเคลื่อนสำคัญทำให้ธุรกิจสามารถวิเคราะห์ข้อมูลในรูปแบบต่างๆได้ และนำเสนอโซลูชั่นต่างๆให้เหมาะกับผู้ใช้งานแต่ละคนได้ ถือเป็นสิ่งที่ทำให้ระบบ AI เป็นที่น่าสนใจสำหรับบริษัทต่างๆ

รูปแบบข้อมูลสามารถเป็นได้ทั้งพฤติกรรมการสั่งซื้อของลูกค้าจนถึงการให้เครดิตสกอริ่ง (Credit score) หรือแม้กระทั่งความชอบของผู้ใช้งาน ด้วยความสำคัญของสมาร์ทโฟนที่มีมากขึ้นในยุคปัจจุบัน ทำให้การพัฒนาแอปพลิเคชันที่มีการนำเทคโลยี AI มาประยุกต์ใช้อยู่เบื้องหลังได้รับความนิยมมากยิ่งขึ้น ธุรกิจของคุณสามารถเป็นส่วนหนึ่งของนวัตกรรม AI เพื่อนำพาธุรกิจไปสู่อนาคตด้วยการยึดหลักการแก้ไขปัญหาให้ลูกค้าเป็นศูนย์กลาง 

อ้างอิง : rtinsights

บทความอื่น

พัฒนากลยุทธ์เทคโนโลยี AI อย่างไร? เพื่อเพิ่มผลกำไรสูงสุดให้กับธุรกิจของคุณ

อ่านต่อ

Demo Day กิจกรรมใหม่แกะกล่องจาก AI GEN

อ่านต่อ

AI GEN ME TIME! & Bowling Match

อ่านต่อ

This website uses cookies

We use cookies to improve user experience, personalize ads, and analyze our traffic. We also share information about your use of our site with our social media, advertising and analytics partners.