เทคโนโลยี AI กับธุรกิจการเงิน : การนำไปใช้งาน และประโยชน์ที่ธุรกิจจะได้รับ | AI GEN
BLOG - เทคโนโลยี AI กับธุรกิจการเงิน : การนำไปใช้งาน และประโยชน์ที่ธุรกิจจะได้รับ | AI GEN

เทคโนโลยี AI กับธุรกิจการเงิน : การนำไปใช้งาน และประโยชน์ที่ธุรกิจจะได้รับ

07 ก.ย. 2564 21:56 น.

เทคโนโลยี AI และ Machine Learning ในภาคธุรกิจการเงินครอบคลุมตั้งแต่แชทบอท จนถึงการป้องกันการฉ้อโกง และการทำงานแบบอัตโนมัติ ธนาคารมากกว่า 80% ได้เล็งเห็นประโยชน์ของการนำเทคโนโลยี AI เข้ามาใช้งาน อ้างอิงจากผลสำรวจรายงานการนำเทคโนโลยี AI มาใช้งานของ Insider Intelligence

การตัดสินใจนำเทคโนโลยี AI เข้ามาใช้ในสถาบันการเงินเป็นไปอย่างรวดเร็วเนื่องมาจากความก้าวหน้าของเทคโนโลยี การเปิดใจรับเทคโนโลยีของผู้ใช้งาน และการเปลี่ยนแปลงขอบเขตของข้อบังคับ ธนาคารที่นำระบบ AI เข้ามาใช้สามารถทำให้กระบวนการทำงานมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น รวมถึงสามารถยกระดับการให้บริการลูกค้า โดยลูกค้าสามารถเข้าถึงบัญชีของตัวเอง และบริการทางเงินได้ตลอด 24 ชั่วโมง

วันนี้ AI GEN จะพาทุกท่านมาเรียนรู้ถึงการนำเทคโนโลยี AI ไปใช้กับธุรกิจการเงินในแต่ละภาคส่วน รวมถึงประโยชน์ที่ธุรกิจจะได้รับจากการนำเทคโนโลยีไปปรับใช้อีกด้วย

การนำเทคโนโลยี AI ไปใช้ในธุรกิจการให้บริการทางเงิน

ด้วยประโยชน์ของเทคโนโลยี AI และแรงกดดันจากผู้บริโภคที่มีความเชี่ยวชาญในเทคโนโลยีในยุคปัจจุบัน ทำให้สถาบันทางการเงินต่างนำเทคโนโลยี AI เข้ามาปรับใช้กับทุกบริการของธุรกิจตนเอง

เทคโนโลยี AI กับการเงินส่วนบุคคล (AI in Personal Finance)

1-5.png (114 KB)ภาพประกอบ : Canva

ผู้บริโภคทุกคนต่างอยากมีอิสรภาพทางการเงิน และการที่ให้ผู้บริโภคสามารถบริหารจัดการสุขภาพทางการเงินของตัวเองได้นั้นถือเป็นแรงผลักดันสำคัญในการนำเทคโนโลยี AI เข้ามาใช้กับเรื่องการเงินส่วนบุคคล ไม่ว่าจะเป็นแชทบอทที่สามารถให้คำแนะนำเรื่องการเงินได้ 24 ชั่วโมงโดยมีเทคโนโลยีการประมวลผลภาษาธรรมชาติและเจตนาของมนุษย์ หรือ NLP เป็นผู้อยู่เบื้องหลังสำคัญ รวมถึงการให้ข้อมูลเชิงลึกรายบุคคลสำหรับโซลูชั่น Wealth Management ดังนั้นเทคโนโลยี AI จึงเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับสถาบันทางการเงินที่ต้องการอยู่ในระดับต้นๆของอุตสาหกรรม

ตัวอย่างการนำเทคโนโลยี AI ไปใช้งานเป็นเคสแรกๆสำหรับการเงินส่วนบุคคล คือบริษัท Capital One โดย Capital one ได้เปิดตัว Eno ซึ่งเป็นผู้ช่วยเสมือนทางการเงินผ่านทาง SMS รายแรกในประเทศสหรัฐอเมริกา โดย Eno ได้ให้ข้อมูลเชิงลึก และให้ความช่วยเหลือลูกค้าผ่านความสามารถหลัก 12 อย่าง ตัวอย่างเช่น การแจ้งเตือนธุรกรรมที่น่าสงสัย และราคาค่าบริการสมาชิกที่เพิ่มขึ้น เป็นต้น

เทคโนโลยี AI กับการเงินรายย่อย (AI in Consumer Finance)

2-4.png (190 KB)ภาพประกอบ : Canva

หนึ่งในกรณีศึกษาที่สำคัญสำหรับการเทคโนโลยี AI มาใช้ในธุรกิจการเงิน คือความสามารถในการป้องกันการโกง และป้องกันภัยคุกคามทางไซเบอร์ ผู้บริโภคในยุคปัจจุบันมองหาธนาคาร หรือสถาบันทางการเงินที่สามารถดูแลความปลอดภัยของบัญชีลูกค้าได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะตัวเลขการโกงจากการทำธุรกรรมการเงินออนไลน์ถูกคาดการณ์ว่าจะมีความเสียหายสูงถึง 48,000 ล้านดอลล่าร์สหรัฐต่อปีภายในปี 2023  (จากการสำรวจของ Insider Intelligence) ดังนั้นเทคโนโลยี AI สามารถเข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาในส่วนนี้ เนื่องจากระบบ AI มีความสามารถที่จะวิเคราะห์ และเลือกแพทเทิร์นการทำธุรกรรมทางการเงินที่มีความผิดปกติออกมาที่มนุษย์ทั่วไปไม่สามารถทำได้

หนึ่งในธนาคารที่นำประโยชน์ของเทคโนโลยี AI ในข้อนี้มาใช้ คือธนาคาร JPMorgan Chase โดยรายได้สุทธิ 50% ของ Chase มาจากลูกค้ารายย่อย ดังนั้นทางแบงก์จึงได้นำแอปพลิเคชันการป้องกันการโกงเข้ามาใช้กับผู้ถือบัญชีทุกคน ตัวอย่างเช่น ได้นำอัลกอรึทึ่มที่เกี่ยวกับการเป็นเจ้าของมาใช้งาน โดยทุกครั้งที่ลูกค้ามีการใช้งานบัตรเครดิต ข้อมูลแต่ละรายการจะถูกส่งไปที่ดาต้าเซ็นเตอร์ส่วนกลางของแบงก์ และหลังจากนั้นระบบจะทำการวิเคราะห์ และตัดสินใจว่ารายการไหนเป็นรายการที่ถูกต้อง หรือไม่ถูกต้อง นอกจากนั้น Chase ได้รับคะแนนสูงทั้งในแง่ของความน่าเชื่อถือ และความปลอดภัยของระบบ ซึ่งเป็นผลมาจากการที่นำเทคโนโลยี AI เข้ามาใช้นั่นเอง นอกจากนั้น JPMorgan Chase ยังได้รับตำแหน่งเป็นอันดับ 2 ของแบงก์ดิจิทัลที่ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้ามากที่สุด จากผลสำรวจของ Insider Intelligence ปี 2020 

เทคโนโลยี AI สำหรับการเงินภาคธุรกิจ (AI in Corporate Finance)

3-6.png (164 KB)ภาพประกอบ : Canva

เทคโนโลยี AI นั้นมีประโยชน์เป็นอย่างมากเมื่อนำมาใช้ในภาคส่วนของ Corporate Finance เนื่องจากเทคโนโลยี AI สามารถช่วยคาดการณ์ และประเมินความเสี่ยงของการปล่อยสินเชื่อได้ สำหรับบริษัทที่มองหาการเพิ่มคุณค่าให้กับธุรกิจ เทคโนโลยี AI ได้แก่ Machine Learning สามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการการกู้ภายใต้สัญญาประกัน และลดความเสี่ยงในเรื่องของการเงินได้ นอกจากนั้นระบบ AI ยังสามารถลดการโจรกรรมทางการเงินผ่านการตรวจสอบการฉ้อโกงได้ล่วงหน้า และตรวจจับธุรกรรมที่ผิดปกติได้ เนื่องจากนักบัญชีของบริษัท นักวิเคราะห์ และนักลงทุนต่างมุ่งการทำให้บริษัทเติบโตไปในระยะยาว

ธนาคารในสหรัฐอเมริกาต่างนำเทคโนโลยี AI มาใช้กับทั้ง middel และ back office โดยได้นำข้อมูลที่เกี่ยวข้องมาวิเคราะห์ด้วยเทคโนโลยี Deep learning เพื่อที่จะสามารถระบุผู้ที่กระทำผิดได้ รวมถึงใช้เทคโนโลยี AI มาตรวจจับการฟอกเงิน และจากรายงาน Insider Intelligence พบว่าประสิทธิภาพในการทำงานเพิ่มเป็น 2 เท่าเมื่อเทียบกับความสามารถของระบบเดิมที่มีอยู่

ประโยชน์ของการนำเทคโนโลยี AI มาใช้ในธุรกิจการเงิน

ประโยชน์ของการนำระบบ AI มาใช้ในภาคการเงินนั้นมีอยู่มากมาย แบ่งเป็นเรื่องหลักๆได้ 3 เรื่อง ได้แก่ การทำงานแบบอัตโนมัติ การป้องกันการฉ้อโกง และสามารถให้คำแนะนำในเรื่องการเงินกับลูกค้าได้แบบรายบุคคล การนำเทคโนโลยี AI มาใช้กับทั้งพนักงานที่ทำงานอยู่เบื้องหน้าในการให้บริการลูกค้า และพนักงานที่ทำงานอยู่ตรงกลางนั้นสามารถช่วยเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมการเงินให้ดีขึ้นได้ดังต่อไปนี้

  • สามารถให้บริการลูกค้าได้ 24 ชั่วโมง
  • ลดปริมาณงานที่ต้องทำซ้ำๆลงได้
  • ลดความผิดพลาดในการทำงาน
  • ประหยัดค่าใช้จ่าย

การทำให้การทำงานของพนักงานในส่วน Middle office นั้นกลายเป็นรูปแบบอัตโนมัติสามารถทำให้ธนาคารในทวีปอเมริกาเหนือสามารถประยัดค่าใช้จ่ายไปได้ถึง 70,000 ล้านดอลล่าร์สหรัฐภายในปี 2025 และมากกว่าไปนั้นผลรวมของการประหยัดค่าใช้จ่ายจากการนำระบบ AI มาใช้จะสูงถึง 447,000 ล้านดอลล่าร์สหรัฐภายในปี 2023 

สรุป

Fintech : อนาคตของเทคโนโลยี AI กับการให้บริการทางการเงิน

ลูกค้าในยุคปัจจุบันมีความต้องการที่มากขึ้นสำหรับบริการทางออนไลน์ และการเข้ามาของธุรกิจสตาร์ทอัพที่มีความเชี่ยวชาญเรื่องเทคโนโลยี ทำให้สถาบันการเงินต่างๆได้มีการปรับตัว และพัฒนาการให้บริการในรูปแบบดิจิทัลกันมากขึ้น โดยคาดการณ์ว่าธนาคารต่างๆทั่วโลกจะมีการใช้งบประมาณทางด้าน IT สูงถึง 297,000 ล้านดอลล่าร์สหรัฐภายในปี 2021 นี้

เมื่อคนยุคใหม่ได้กลายเป็นกลุ่มเป้าหมายสำคัญ ทำให้แบงก์ และสถาบันทางการเงินต่างๆต้องมีการเพิ่มงบประมาณทางด้าน IT และเทคโนโลยี AI เพื่อตอบโจทย์ความต้องการทางด้านดิจิทัลที่มีเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากกลุ่มลูกค้าหนุ่มสาวนั้นชอบใช้บริการผ่านทางดิจิทัลมากกว่าการที่ไปใช้บริการที่สาขา โดย 78% ของกลุ่มคนยุคใหม่นั้นจะไม่ไปที่สาขา หากสามารถใช้บริการผ่านดิจิทัลแบงค์กิ้งได้

โดยในปัจจุบันดิจิทัลแบงค์กิ้งได้ถือเป็นเรื่อง New Normal สำหรับคนในยุคปัจจุบันไปแล้วจากสถานการณ์โรคระบาดโควิด 19 ที่ทำให้คนต้องใช้ชีวิตอยู่ที่บ้าน ยิ่งทำให้เป็นปัจจัยหลักที่ธนาคาร และสถาบันทางการเงินต่างๆต้องลงทุนในระบบ IT และเทคโนโลยี AI มากยิ่งขึ้น เพื่อรองรับกับสถานการณ์ปัจจุบัน และรองรับกับความต้องการลูกค้าในยุคดิจิทัลอีกด้วย

อ้างอิง : Business Insider

บทความอื่น

7 ประโยชน์ของการนำเทคโนโลยี AI มาใช้ในภาคธุรกิจ

อ่านต่อ

เทคโนโลยี OCR คืออะไร และมีขั้นตอนการทำงานอย่างไร?

อ่านต่อ

AI-as-a-service หรือ AIaaS คืออะไร?

อ่านต่อ

This website uses cookies

We use cookies to improve user experience, personalize ads, and analyze our traffic. We also share information about your use of our site with our social media, advertising and analytics partners.