13 Technology trends ที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลงกับผู้บริโภค และการทำธุรกิจในอนาคตอันใกล้ | AI GEN
BLOG - 13 Technology trends ที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลงกับผู้บริโภค และการทำธุรกิจในอนาคตอันใกล้ | AI GEN

13 Technology trends ที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลงกับผู้บริโภค และการทำธุรกิจในอนาคตอันใกล้

10 พ.ย. 2564 21:58 น.

ในปีที่ผ่านมาหลายๆท่านมักจะหาข้อมูลเกี่ยวกับข่าวสารทางด้านเทคโนโลยีว่าเทคโนโลยีอะไรที่กำลังมาในแต่ละอุตสาหกรรม และสามารถพูดได้เลยว่าในช่วง 2 ปีที่ผ่านมานั้นเทคโนโลยีได้รับความสนใจจะผู้คนเป็นจำนวนมาก เนื่องจากเทคโนโลยีมีบทบาทสำคัญเป็นอย่างมากทั้งในการทำงาน การพักผ่อน ช้อปปิ้ง หรือแม้กระทั่งเรื่องสุขภาพ จึงทำให้ทั้งผู้คน และธุรกิจต่างๆอยากจะรู้ถึงถึงเทรนด์ของเทคโนโลยีในอนาคตว่าจะส่งผลต่อการใช้ชีวิต และการทำธุรกิจในอนาคตเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรบ้าง

ตั้งแต่การนำเทคโนโลยี AI หรือ Artificial intelligence มาใช้งานจนถึงนวัตกรรมที่เอามาช่วยยกระดับประสบการณ์ในการช้อปปิ้ง เทคโนโลยียังคงมีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนแปลงวิธีการใช้ชีวิต และการทำงานอย่างต่อเนื่องในปี 2022 ที่กำลังจะมาถึงนี้  

วันนี้ AI GEN ได้รวบรวมความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญจาก Forbes Technology Council ที่ได้มาแชร์มุมมอง และการคาดการณ์เกี่ยวกับเทคโนโลยีที่จะเป็น Game-changing ที่จะส่งผลกระทบกับการทำธุรกิจ และผู้บริโภคในภายภาคหน้า 

1.Ethical AI หรือจริยธรรมปัญญาประดิษฐ์

1-15.png (1.48 MB)ภาพประกอบ : Canva

Ethical AI หรือจริยธรรมปัญญาประดิษฐ์ถือเป็นหนึ่งในเรื่องของเทรนด์เทคโนโลยีสำหรับผู้บริโภคในปีหน้านี้ ถึงแม้ว่าเทคโนโลยี AI หรือปัญญาประดิษฐ์จะมีประโยชน์มหาศาลทั้งกับภาคธุรกิจ และการใช้ชีวิตของมนุษย์ แต่มีสิ่งที่ท้าทาย และถือเป็นความเสี่ยงที่สำคัญในมุมของผู้บริโภคนั้นคือเรื่องของความปลอดภัยของข้อมูล และความเป็นส่วนตัว หลายอุตสาหกรรมเริ่มมีหารือ และพัฒนาหลักการเรื่องของจริยธรรมปัญญาประดิษฐ์ พร้อมถึงเแนวทาง นโยบาย และข้อบังคับต่างๆ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าระบบ AI ที่ถูกพัฒนาขึ้นนั้นจะสอดคล้องกับหลักการของ Ethical AI เพื่อปกป้องข้อมูล และความเป็นส่วนตัวของลูกค้า

2.การนำเทคโนโลยี AI ไปใช้ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง

2-16.png (916 KB)

ภาพประกอบ : Canva

สอดคล้องกับสถิติของการนำเทคโนโลยีไปใช้ที่ได้มีการรวบรวมไว้ในปี 2021  โดยผลวิจัยของ Gartner ระบุไว้ว่าจำนวนของธุรกิจที่นำเทคโนโลยี AI ไปใช้งานจะสูงขึ้นถึง 270% ภายในระยะเวลา 4 ปี และ ในปี 2022 ที่กำลังจะถึงนี้ เราจะได้เห็นการนำเทคโนโลยี AI ไปใช้กันอย่างกว้างขวางมากขึ้นทั้งในมุมของธุรกิจ รวมถึงลูกค้าที่เป็นคนซื้อสินค้า และลูกค้าที่เป็นคนใช้สินค้า ระดับของการเชื่อมต่อระหว่างเครือข่ายกลายเป็นเรื่องที่ซับซ้อนเกินกว่าที่ผู้บริโภค และธุรกิจจะสามารถจัดการได้ ไม่ว่าจะเป็นการตรวจตราเรื่องความปลอดภัย การสื่อสาร การป้องกันและดูแลข้อมูล เป็นต้น โดยเทคโนโลยี AI ได้กลายมาเป็นทางเลือกเดียวที่สามารถช่วยจัดการเรื่องการบริหารสัมพันธ์ที่มีความซับซ้อนเหล่านี้ได้ตั้งแต่ปี 2022 เป็นต้นไป

3.การพัฒนาอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ให้ยาวขึ้น

3-16.png (1.35 MB)

ภาพประกอบ : Canva

อายุการใช้งานของแบตเตอรี่ถือเป็นหัวใจสำคัญของการสร้างนวัตกรรม การพัฒนาอายุการใช้งานของแบตเตอรี่จะทำให้อุปกรณ์ต่างๆมีอายุการใช้งานที่ยาวนานมากขึ้น และสามารถชาร์จแบตได้เร็วมากยิ่งขึ้น ทำให้ผู้คนไม่ถูกจำกัดการใช้งานของอุปกรณ์ด้วยอายุของแบตเตอรี่ ประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ให้ยาวขึ้น คือการเข้ามาของอุปกรณ์ที่ใช้งานได้แบบยั่งยืน (Sustainable devices) ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่ผู้ใช้งานสามารถใช้งานได้ยาวนานมากขึ้นทั้งในแง่ของตัวอุปกรณ์ (Hardware) และการอัพเดทของระบบปฎิบัติการ (Software) รวมถึงใช้ชิ้นส่วนของอุปกรณ์ที่สามารถนำไปรีไซเคิลต่อได้ แต่ในขณะเดียวกันในมุมของผู้ผลิตอุปกรณ์ ถ้าอุปกรณ์ใช้งานได้ยาวนานขึ้น อาจจะส่งผลถึงผลกำไรที่อาจจะลดลงได้เช่นกัน

4.การออกแบบเทคโนโลยีให้เหมาะสมกับการทำงานทางไกล

4-10.png (1.54 MB)

ภาพประกอบ : Canva

ด้วยสถานการณ์โควิด-19 ทำให้ผู้บริโภคต้องเปลี่ยนรูปแบบการใช้ชีวิตทั้งการทำงานจากที่บ้าน หรือผสมผสานกันระหว่างทำงานที่ออฟฟิซ และทำงานที่บ้าน เราได้เห็นการที่บริษัทเทคโนโลยีต่างๆทำให้สินค้าของตัวเองสอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคโดยโดยที่ไม่ต้องใช้เงินลงทุนเป็นจำนวนมาก เนื่องจากบริษัทเทคโนโลยีทั้งหลายได้มีการปรับเปลี่ยนสินค้าของตนเองให้เข้ากับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และในปี 2022 ที่กำลังจะมาถึงนี้เราจะได้เห็นการพัฒนาในเรื่องของ Supply chain และเทคโนโลยีที่ถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิต และการทำงานแบบทางไกล (Remote) และแบบผสม (Hybrid) กันมากขึ้น

5.การนำ VR และ AR มาผสมผสานกับการช้อปปิ้งออนไลน์

5-10.png (1.22 MB)ภาพประกอบ : Canva

การนำเทคโนโลยี Virtual Reality (VR) และ Augmented Reality (AR) มาใช้กับการช้อปปิ้งออนไลน์ทำให้ปัญหาเรื่องระยะทางในการเดินทาง ข้อมูล และประสบการณ์หมดไป ตัวอย่างเช่น อิเกียได้สร้างแอปพลิเคชันที่มีฟีเจอร์ Augmented Reality ที่จะทำให้ลูกค้าสามารถเข้าไปค้นหาสินค้าในแคตตาล็อคของบริษัท และสามารถนำภาพเฟอร์นิเจอร์แบบ 3D ไปลองวางไว้ในสถานที่จริงได้ และสามารถทำการสั่งซื้อสินค้าโดยมีบ้านตนเองเป็นภาพพื้นหลังในแคตตาล็อค

6.ความสามารถในการลองเสื้อผ้าแบบทางไกล

6-12.png (1.08 MB)

ภาพประกอบ : Canva

การนำเทคโนโลยี Augmented Reality (AR) และการลองเสื้อผ้าเสมือนจริงมาใช้ในธุรกิจ E-commerce นั้นถือเป็นเทรนด์ของเทคโนโลยีที่น่าตื่นตาตื่นใจเป็นอย่างมาก รวมถึงมีแนวโน้มที่จะเติบโต และถูกนำไปใช้ในวงกว้างมากขึ้นตั้งแต่ปี 2022 เป็นต้นไป ลูกค้าของ E-commerce เจ้าต่างๆจะสามารถลองสินค้า เช่น เสื้อผ้า และสินค้าแฟชั่นอื่นๆได้ผ่านทางแอปพลิเคชันบนมือถือ และเว็บไซต์ ซึ่งในเว็บไซต์ และแอปพลิเคชันมีการทำโฆษณาในรูปแบบ Augmented Reality 3D อีกด้วย

7.เสื้อผ้าอัจฉริยะ (Smart clothing)

7-9.png (1.72 MB)

ภาพประกอบ : Canva

ในอนาคตอันใกล้นี้ เทคโนโลยี Internet-of-things จะมาประจบกับแบรนด์เสื้อผ้าสุดหรูอย่าง Gucci ในรูปแบบของเสื้อผ้าอัจฉริยะ ตัวอย่างเช่น ชุดว่ายน้ำที่สามารถติดเซ็นเซอร์ UV เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นจากการโดนแสงแดดแผดเผา หรือรองเท้าอัจฉริยะที่สามารถพัฒนาเทคนิคในการวิ่งของคุณได้ หรือติดตามการเคลื่อนไหวของผู้ป่วยโรคพาร์กินสันได้ โดยผู้ผลิตอาจจะมีการติดระบบสัมผัสไว้ที่ผ้า เพื่อช่วยปรับท่าทางในการเดิน หรือนั่ง รวมถึงพัฒนาการจัดท่าโยคะให้ถูกต้องได้อีกด้วย

8.แอปพลิเคชันโซเชียลเพื่อสร้าง Brand engagement

8-8.png (1.25 MB)

ภาพประกอบ : Canva

การสร้างปฏิสัมพันธ์จะเป็นธีมหลักสำหรับธุรกิจในปีหน้านี้ เนื่องจากผู้คนโหยหาการมีปฏิสัมพันธ์ซึ่งกันและกัน ไม่ว่าจะเป็นปฏิสัมพันธ์ระหว่างบุคคล สิ่งของ และอุปกรณ์สื่อสารต่างๆ หลังจากต้องประสบกับเหตุการณ์ Social distancing จากสถานการณ์โควิด-19 ดังนั้นจึงเป็นเวลาที่ดีที่สุดที่ธุรกิจจะสร้างปฎิสัมพันธ์กับลูกค้าผ่านช่องทางการสื่อสารต่างๆในรูปแบบของ Gamification ,  Virtual Reality (VR) และ Augmented Reality (AR) เป็นต้น เพื่อที่จะดึงดูด และสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าให้อยู่กับแบรนด์

9. Smart gadget และ Smart experience

9-6.png (1.03 MB)

ภาพประกอบ : Canva

ในปี 2022 เราจะได้ตัวอย่างของอุปกรณ์ต่างๆกลายเป็นอุปกรณ์อัจฉริยะกันมากขึ้น ตัวอย่างเช่น ฝารองนั่งโถส้วมที่สามารถติดตามความดันเลือด อัตราการเต้นของหัวใจ ปริมาณอ๊อกซิเจนในเลือด และอื่นๆ หรือแว่นตาอัจฉริยะที่ถูกออกแบบมาให้สามารถบันทึก และเล่นเพลง และภาพได้ตามคำสั่ง รวมถึงประสบการณ์ต่างๆจะมีเทคโนโลยีมาเกี่ยวข้องมากขึ้น เช่น ร้านค้าปลีกอัจฉริยะที่คุณแค่เดินเข้าไปเลือกของ และเดินออกจากร้านได้เลย เหมือนกันร้าน Amazon GO ที่ไม่ต้องมีพนักงานเก็บเงิน ตัวอย่างเหล่านี้เป็นตัวอย่างที่อย่างน้อยมีเทคโนโลยีรองรับอยู่แล้ว แต่ยังไม่ได้ถูกนำไปใช้ในวงกว้าง แต่ในปีหน้าเราจะได้เห็นเทคโนโลยีเหล่านี้ถูกนำไปใช้ในวงกว้างมากยิ่งขึ้น

10.ซอฟต์แวร์แบบ Low-code และ No-code ถูกนำไปใช้กันในวงกว้าง

10-5.png (1.32 MB)ภาพประกอบ : Canva

เราจะได้เห็นบริษัทต่างๆนำเรื่อง Low-code และ No-code ไปใช้ในการพัฒนาซอฟต์แวร์กันมากยิ่งขึ้น เพื่อยกระดับประสบการณ์การให้บริการลูกค้า ด้วยเทคโนโลยี Low-code และ No-code ทำให้บริษัทสามารถสร้างสรรค์สินค้าใหม่ๆได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น รวมถึงสามารถตรวจสอบไอเดียใหม่ๆ และระบุความต้องการของลูกค้าได้แบบเรียลไทม์ ด้วยเทคโนโลยีนี้จะทำให้กระบวนการทางธุรกิจมีความรวดเร็ว และพร้อมที่จะปรับเปลี่ยนตามความต้องการของลูกค้า รวมถึงส่งมอบประสบการณ์แบบรายบุคคล สร้างความประทับให้กับลูกค้าที่มาใช้บริการ

11. 5G กลายเป็นกระแสหลัก

11-4.png (2.10 MB)

ภาพประกอบ : Canva

เทคโนโลยี 5G จะกลายมาเป็นกระแสหลักตั้งแต่ปี 2022 เป็นต้นไป เมื่อเปรียบเทียบกับ 4G แล้วนั้น 5G มีคลื่นความถี่ที่สูงกว่า และมีความเร็วสูงกว่าถึง 100 เท่าตัว ถึงแม้ว่าเทคโนโลยี 5G นั้นอาจจะถูกจำกัดเมื่อเจอกับกำแพง หรือวัตถุที่มีความหนา แต่ด้วยการเซ็ตระบบที่ถูกต้อง และการใช้เทคโนโลยีที่มีอยู่เข้ามาช่วยทำให้ประสิทธิภาพในการรับและส่งข้อมูลนั้นไปเป็นได้อย่างรวดเร็ว และส่งผลบวกให้กับธุรกิจในหลากหลายอุตสาหกรรม

12.แชทบอทที่มีประสิทธิภาพ และประสิทธิผลที่สูงขึ้น 

12-3.png (1.34 MB)

ภาพประกอบ : Canva

ทุกปีผ่านไปจะมีเทคโนโลยีใหม่เข้ามาเปลี่ยนแปลงการใช้ชีวิตของเราอยู่ตลอด แชทบอทเป็นหนึ่งในเทคโนโลยีที่ถูกมานำใช้กันในวงกว้างต่อเนื่องไปจนถึงปี 2022 แชทบอทสามารถตอบคำถามลูกค้าได้อย่างแม่นยำ และมีประสิทธิภาพสูง ด้วยการเติบโตของเทคโนโลยี AI และ Machine learning ทำให้เทคโนโลยีแชทบอทจะยิ่งมีประสิทธิภาพในการทำงานสูงขึ้น และถูกนำมาใช้ในวงกว้างมากขึ้นด้วย

13.การพิสูจน์ตัวตนโดยไม่ต้องใช้พาสเวิร์ด

13-2.png (1.17 MB)

ภาพประกอบ : Canva

ผู้บริโภคจำนวนมากในปัจจุบันไม่ใช่การกำหนดพาสเวิร์ดสำหรับบัญชีการใช้งานส่วนบุคคล และหวังว่าสิ่งนี้จะนำไปสู่การใช้งานในบริษัทเช่นกันในการที่พิสูจน์ตัวตนโดยไม่ต้องใช้พาสเวิร์ดในการเข้าใช้ระบบงานของบริษัท ด้วยความสามารถของสมาร์ทโฟนในปัจจุบันที่สามารถใช้อัตลักษณ์ในการยืนยันตัวตนได้ หรือเทคโนโลยี Biometrics  เช่น การแสกนใบหน้า หรือแสกนลายนิ้วมือ ทำให้ปัญหาเรื่องการจำพาสเวิร์ดไม่ได้ หรือมีคนแอบอ้างเอาพาสเวิร์ดไปใช้นั้นหมดไป

Banner_13 trends.png (100 KB)

สรุป

ในปัจจุบันเทคโนโลยีได้เข้ามามีบทบาททั้งในชีวิตประจำวัน และธุรกิจเป็นอย่างมาก หากธุรกิจปรับตัวให้ทัน หรือก้าวนำเทคโนโลยีไปได้ยิ่งทำให้สร้างความสามารถในการแข่งขันให้กับธุรกิจได้ เนื่องจากเทคโนโลยีได้อำนวยความสะดวกในการทำงาน เพิ่มประสิทธิภาพ และยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายให้กับธุรกิจได้ในหลากหลายมิติ และการติดตามอัพเดทเทรนด์เทคโนโลยีต่างๆเป็นสิ่งที่ธุรกิจ หรือองค์กรต่างๆต้องทำอยู่เสมอ เพื่อสามารถนำไปปรับใช้กับธุรกิจของตน และทำให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างยั่งยืน

บทความอื่น

รู้จักกับ 4 ประเภทของการทำ Digital transformation

อ่านต่อ

ประสบการณ์ฝึกงาน 2 เดือนในช่วง COVID-19 ที่ AI GEN

อ่านต่อ

12 คำศัพท์ของเทคโนโลยี AI ที่คนทำธุรกิจในยุคนี้ต้องรู้จัก

อ่านต่อ

This website uses cookies

We use cookies to improve user experience, personalize ads, and analyze our traffic. We also share information about your use of our site with our social media, advertising and analytics partners.