10 รูปแบบของการนำเทคโนโลยี AI ไปใช้ในภาคธุรกิจ
17 ก.ย. 2564 03:57 น.เราอาศัยอยู่ในยุคที่คอมพิวเตอร์เป็นสิ่งที่สำคัญในการใช้ชีวิตประจำวัน ในปัจจุบันเทคโนโลยีมีความก้าวหน้าเป็นอย่างมากจนกระทั่งคอมพิวเตอร์สามารถทำหน้าที่บางอย่างได้เหมือนกับมนุษย์ ทั้งหมดนี้เป็นไปได้เพราะเทคโนโลยี AI
เทคโนโลยี AI เป็นเทคโนโลยีที่ทำให้เครื่องจักร หรือระบบสามารถทำงานได้โดยอัตโนมัติ ซึ่งปกติแล้วจะต้องใช้มนุษย์ในการทำงานนั้นๆ AI ถือเป็นศาสตร์ที่สำคัญในสาขาวิทยาการคอมพิวเตอร์ (Computer Science) โดยถูกพัฒนา และเขียนโปรแกรมโดยใช้เทคโนโลยี Machine learning และ Deep learning
เทคโนโลยี AI ได้ถูกนำไปใช้งานอย่างแพร่หลายในชีวิตประจำวัน ทำให้การใช้ชีวิตเป็นเรื่องง่ายมากยิ่งขึ้น และในโลกของธุรกิจเทคโนโลยี AI ได้ถูกนำมาใช้กันในวงกว้างเช่นกัน โดยระบบ AI สามารถเข้าไปช่วยธุรกิจได้ใน 3 เรื่องหลัก คือกระบวนการทำงานแบบอัตโนมัติ การได้ข้อมูลเชิงลึกจากการวิเคราะห์ข้อมูล และการ สร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า และพนักงาน (อ่านเพิ่มเติม : ประเภทของ AI และตัวอย่างการใช้งานทางธุรกิจ)
ในโลกธุรกิจการมีการแข่งขันกันอยู่เสมอในแต่ละอุตสาหกรรม และทุกบริษัทต้องการที่จะเป็นเบอร์ต้นๆของตลาด บริษัทข้ามชาติที่ประสบความสำเร็จนั้นได้นำรูปแบบการใช้งานของเทคโนโลยี AI มาปรับใช้กับธุรกิจของตนเอง ได้แก่ กระบวนการทำงานแบบอัตโนมัติ (Automation), Big data analytics และการประมวลภาษาธรรมชาติ (Natural Language Processing หรือ NLP) เพื่อทำให้ได้ข้อมูลเชิงลึกสำหรับธุรกิจ และสามารถตัดสินใจได้อย่างแม่นยำ รวมถึงนำเสนอสินค้าและบริการที่ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าของธุรกิจมากยิ่งขึ้น แม้กระทั่งธุรกิจขนาดเล็กเองก็ได้มีการนำระบบ AI มาใช้ เพื่อที่ช่วยทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จ
วันนี้ AI GEN จะพามาเรียนรู้ถึงวิธีการนำเทคโนโลยี AI ไปประยุกต์ใช้กับธุรกิจกันอย่างละเอียด เพื่อให้ธุรกิจได้เห็นภาพถึงรูปแบบการนำระบบ AI ไปใช้งานกันมากยิ่งขึ้น
รูปแบบของการนำเทคโนโลยี AI ไปใช้งานในภาคธุรกิจ
1.การจ้าง และสรรหาบุคลากร
ในปัจจุบันการสมัครงานมีการแข่งขันกันสูง ผู้สมัครหลายร้อยคนสมัครเข้ามาในตำแหน่งงานเดียวกันซึ่งบริษัทรับได้แค่คนเดียว ผลที่ตามมาคือแผนกทรัพยากรบุคคลจะต้องดูใบสมัครของผู้สมัครแต่ละคน เพื่อที่จะผู้สมัครที่เหมาะสมที่จะได้รับการสัมภาษณ์
ภาพประกอบ : Canva
เพื่อทำให้การทำงานของแผนกทรัพยากรบุคคลเป็นเรื่องง่ายมากขึ้น บริษัทสามารถใช้ระบบ AI และระบบ NLP หรือการประมวลภาษาธรรมชาติเข้ามาช่วยเพื่อที่จะคัดคนที่ตรงกับคุณสมบัติที่บริษัทต้องการ โดยระบบจะคัดกรองจากคุณสมบัติในเบื้องต้น ได้แก่ ที่อยู่อาศัย ทักษะและความสามารถ การศึกษา เป็นต้น รวมถึงยังสามารถแนะนำตำแหน่งงานที่เหมาะสมให้ผู้สมัครที่ได้รับคัดเลือกได้อีกด้วย ด้วยวิธีนี้ไม่เพียงแต่จะช่วยให้ผู้สมัครได้รับการคัดเลือกที่เหมาะสม และปราศจากอคติ ยังสามารถทำให้ประหยัดเวลา และประหยัดกำลังคนสำหรับทีม HR ได้อีกด้วย
2.Cybersecurity
อินเตอร์เน็ตทำให้การจัดเก็บข้อมูล และการจัดการข้อมูลเป็นเรื่องง่ายมากยิ่งขึ้นสำหรับธุรกิจ แต่ในขณะเดียวกันก็มาพร้อมกับความเสี่ยงในเรื่องการทำผิดกฎหมาย และความเสี่ยงเรื่องการรั่วไหลของข้อมูล ทุกธุรกิจจำเป็นต้องมีการรักษาความปลอดภัยบนโลกออนไลน์ เนื่องจากฐานข้อมูลที่สำคัญของธุรกิจไม่ว่าจะเป็นข้อมูลทางการเงิน ข้อมูลส่วนบุคคล ถูกจัดเก็บไว้บนระบบออนไลน์ Cybersecurity จึงเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับทุกองค์กร และเป็นหนึ่งในรูปแบบการนำไปใช้งานของระบบ AI ที่สำคัญที่สุดระบบหนึ่ง
ภาพประกอบ : Canva
ด้วยเทคโนโลยี AI ทำให้ผู้เชี่ยวชาญทางด้าน Cyber สามารถเข้าใจ และนำข้อมูลแปลกปลอมที่สามารถตรวจจับได้ออกไปจากระบบ ระบบ AI ทำให้ผู้เชี่ยวชาญด้าน Cyber สามารถรู้ถึงธุรกรรมที่ผิดปกติ หรือตรวจจับโปรแกรมที่ไม่พึงประสงค์ (มัลแวร์)ได้ เพื่อเตรียมรับมือกับการถูกจู่โจมระบบได้ล่วงหน้า นอกจากนั้นเทคโนโลยี AI ยังสามารถวิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมหาศาลได้ และพัฒนาระบบให้สอดคล้องกับจำนวนของข้อมูล เพื่อที่ลดโอกาสในการถูกจู่โจมทางอินเตอร์เน็ตได้
3.การคาดการณ์ตลาด
ตลาดหุ้นได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในปัจจุบัน และเป็นตลาดที่ไม่สามารถคาดเดาได้ล่วงหน้า เนื่องมาจากธรรมชาติของตลาดหุ้นที่มักจะเปลี่ยนแปลงเร็ว หลายๆคนลงทุนในตลาดหุ้น และได้พิสูจน์ให้เห็นว่าพวกเขาได้กำไรจากการลงทุน แต่เทคโนโลยี AI ทำให้เรื่องเหล่านี้ง่ายมากยิ่งขึ้น ด้วยเทคโนโลยี Support Vending Machine (SVM) และ Artificial Neural Networks (ANN) ถือเป็นเทคโนโลยีประเภทหนึ่งของ Machine Learning ทำให้สามารถคาดการณ์ และเรียนรู้แพทเทิร์นของตลาดหุ้นได้ การวิเคราะห์ทางเทคนิค (Technical Analysis) ถือเป็นเรื่องที่สำคัญในการที่จะพยากรณ์ตลาดการเงิน และให้ผลสำเร็จได้
ภาพประกอบ : Canva
มี 3 อัลกอริทึ่มที่ใช้ในการคาดการณ์นี้ ได้แก่ Evenberg-Marquardt, Scaled Conjugate Gradient และ Bayesian Regularization ซึ่งเมื่ออัลกอริทึ่ม 3 อันนี้ทำงานร่วมกันทำให้ความแม่นยำสูงถึง 99% ด้วยการใช้ข้อมูลการซื้อหุ้นระหว่างวัน
4.การวิเคราะห์ลูกค้า
ธุรกิจอยู่ได้เพราะลูกค้า และลูกค้าสามารถทำได้ทั้งสร้างให้ธุรกิจเติบโต หรือทำลายธุรกิจ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับองค์กรที่จะต้องทำการวิเคราะห์ข้อมูลฐานลูกค้าให้ดี และวางแผนกลยุทธ์เพื่อสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า และพัฒนาการให้บริการในด้านอื่นๆต่อไป ก่อนหน้านี้เป็นเรื่องยากสำหรับบริษัทที่จะเก็บข้อมูลผลการดำเนินงาน เนื่องจากการซื้อขายส่วนใหญ่เกิดขึ้นระหว่างบุคคล และผลตอบรับที่ได้รับมักจะมาจากทางทีมขาย และมีเรื่องของอารมณ์เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย
ภาพประกอบ : Canva
ในปัจจุบันเทคโนโลยี AI ทำให้บริษัทสามารถสำรวจผลตอบรับจากลูกค้าที่สามารถให้ข้อมูลเชิงลึกได้ง่ายมากขึ้น รวมถึงยังให้ข้อมูลที่มีความแม่นยำสูง และช่วยทำให้เกิดกลยุทธ์ที่สามารถสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าได้ดีขึ้น และช่วยอำนวยความสะดวกให้ทีมขายสามารถส่งมอบประสบการณ์ให้กับลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น ดังนั้นเทคโนโลยี AI ทำให้บริษัทโฟกัสที่การยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง ซึ่งทำให้เกิดประโยชน์กับบริษัทอย่างมหาศาล
5.ใบเสร็จรับเงิน และใบแจ้งหนี้
ทุกธุรกิจมาพร้อมกับความรับผิดชอบในด้านการเงิน โดยสามารถจินตนาการได้ถึงการที่องค์กรจะต้องมีการจัดการเรื่องบิล การทำจ่ายเช็ค และใบแจ้งหนี้กับบริษัทคู่ค้าอยู่ตลอด ซึ่งกระบวนทางบัญชี และการเงินเหล่านี้สามารถกลายเป็นภาระของบริษัทไปได้ถ้าใช้คนในจัดการ นอกจากนั้นอาจจะทำให้คำนวณตัวเลขผิดพลาด ซึ่งทำให้เกิดความเสียหายให้กับบริษัทได้ เทคโนโลยี AI ทำให้การบริหารจัดการเรื่องการเงินเป็นเรื่องง่าย และแม่นยำมากขึ้นโดยการนำกระบวนการทำงานแบบอัตโนมัติมาใช้
ภาพประกอบ : Canva
ในปัจจุบันมีซอฟต์แวร์หลายเจ้าในตลาดที่ให้บริการด้านบัญชี และการจัดการใบแจ้งหนี้ สำหรับการจัดการใบแจ้งหนี้แบบกระดาษ ซอฟต์แวร์เหล่านี้มีฟีเจอร์การดึง และแยกข้อมูลออกมาให้บริการ ซึ่งสามารถดึงข้อมูลจากใบแจ้งหนี้ที่เป็นกระดาษออกมาได้ทันที่ที่มีการอัพโหลด สแกน และจัดเก็บใบแจ้งหนี้ โดยเฉพาะใบแจ้งหนี้ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ยิ่งสามารถทำได้อย่างง่ายดาย เนื่องจากระบบจะมีการวิเคราะห์ และจัดเก็บข้อมูลโดยอัตโนมัติ เครื่องมือในการจัดการบัญชีที่มีระบบ AI อยู่เบื้องหลังมีความแม่นยำสูง และถูกออกแบบการใช้งานมาเป็นอย่างดี ทำให้การจัดการเรื่องการเงินของบริษัทกลายเป็นเรื่องง่าย
6.การรีวิวข้อเสนอทางธุรกิจ (Proposal)
ได้มีการพิสูจน์มาแล้วว่าเทคโนโลยี AI มีประโยชน์ในการช่วยรีวิวข้อเสนอทางธุรกิจ ข้อเสนอทางธุรกิจมักจะมีการแลกเปลี่ยนกันเป็นปกติในการทำธุรกิจ และถ้าหากไม่มีการตรวจสอบ และวิเคราะห์ให้ดีอาจจะทำให้บริษัทเข้าหาลูกค้าผิดคนได้ ในปัจจุบันระบบ AI สามารถวิเคราะห์ข้อเสนอทางธุรกิจได้อย่างง่ายดายผ่านการทำงานของ Machine learning บริษัทสามารถทราบขอบเขตของงาน ราคา และตรวจสอบประวัติที่มาของข้อเสนอทางธุรกิจได้
ภาพประกอบ : Canva
ซอฟต์แวร์ AI ที่จัดการเรื่องข้อเสนอทางธุรกิจสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพในการคัดเลือกลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย โดยจะทำการอ่านข้อเสนอทางธุรกิจทั้งหมด และตัดสินผลที่จะได้รับอย่างดีที่สุด ทำให้ช่วยประหยัดเวลา และนำเสนอผลการคาดการณ์ที่แม่นยำ นอกจากนั้นซอฟต์แวร์นี้ยังช่วยในการวางแผนเชิงกลยุทธ์ให้กับบริษัท เพื่อทำให้บริษัทเติบโตต่อไปในอนาคต
7.ผู้ช่วยเสมือน และแชทบอท
ทุกธุรกิจจะมีสินค้า และบริการที่ต้องการนำเสนอให้กับลูกค้าในวงกว้าง เพื่อเป็นการขยายฐานลูกค้า และช่วยอำนวบความสะดวกให้กับทีมขาย และเป็นไปไม่ได้ที่เจ้าของธุรกิจจะสามารถอธิบาย และตอบข้อสงสัยให้กับลูกค้าแต่ละรายได้ด้วยตัวเอง
ภาพประกอบ : Canva
ด้วยความช่วยเหลือจากเทคโนโลยี AI ธุรกิจได้นำผู้ช่วยเสมือน และแชทแบทเข้ามาใช้ในเว็บไซต์ และแอปพลิเคชันของธุรกิจ ที่จะสามารถช่วยตอบคำถาม และให้ข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทได้แบบ 24 ชั่วโมง
8.Targeted Marketing
ในปัจจุบันทุกธุรกิจใช้ประโยชน์ของอินเตอร์เน็ตในการสร้างให้ธุรกิจเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น การตลาดเฉพาะกลุ่ม หรือการทำโฆษณาเฉพาะกลุ่มเป็นวิธีการทำโฆษณาบนออนไลน์โดยใช้เทคโนโลยี NLP และ AI ในการเลือกส่งโฆษณาให้กับแต่ละกลุ่มลูกค้า โดยกลุ่มผู้ชมโฆษณาแต่ละกลุ่มจะถูกแบ่งตามกิจกรรมที่ได้ทำบนโลกออนไลน์ และการค้นหาสินค้าและบริการบนออนไลน์ล่าสุด เพื่อที่จะคัดเลือกโฆษณาที่ตรงกับแต่ละกลุ่มผู้ชมไปแสดง
ภาพประกอบ : Canva
ถือเป็นการทำการตลาดที่มีประสิทธิภาพ และมีประโยชน์ต่อธุรกิจ เนื่องจากสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายในการทำการตลาดได้ เพียงแค่ใช้การจับคู่คีย์เวิร์ดที่คนได้ค้นหาบนโลกออนไลน์
9.คาดการณ์การใช้ประโยชน์จากช่องโหว่ของระบบ
ภาพประกอบ : Canva
ระบบ AI สามารถช่วยแก้ไขปัญหาการใช้ประโยชน์จากช่องโหว่ของระบบได้ โดยระบบ AI จะทำให้บริษัทสามารถคาดการณ์การทุจริต หรือความผิดปกติในรูปแบบต่างๆที่จะทำให้เกิดความเสี่ยงต่อระบบได้ล่วงหน้า ช่วยทำให้ธุรกิจปลอดภัยจากความเสี่ยงต่างๆ นอกจากนั้นเทคโนโลยี AI ยังช่วยระบุถึงการให้เครดิตทางการเงินที่ไม่ถูกต้อง และการเคลมประกันที่ไม่ถูกต้องได้แบบเรียลไทม์ ช่วยรักษาผลประโยชน์ของบริษัทจากกลโกงต่างๆ และทำให้บริษัทปลอดภัยจากความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นได้
10.ข้อมูลเชิงลึกจากโซเชียลมีเดีย
โซเชียลมีเดียได้กลายเป็นช่องทางในการสื่อสารที่มีอิทธิพลมากที่สุดช่องทางหนึ่งในการทำให้ธุรกิจเป็นที่รู้จักในวงกว้าง ทำให้บริษัทสามารถนำเสนอสินค้า และบริการให้กับลูกค้ากลุ่มเป้าหมายได้เป็นอย่างดี หากบริษัทไหนมีการใช้โซเชียลมีเดียของตัวเองได้อย่างแม่นยำ จะทำให้บริษัทได้รับความสนใจจากกลุ่มลูกค้าได้อย่างท่วมท้น
ภาพประกอบ : Canva
เนื่องจากมีผู้ใช้งานโซเชียลมีเดียเป็นจำนวนมาก จึงทำให้การเก็บข้อมูลผลตอบรับจากลูกค้าในแบบแมนนวลนั้นเป็นไปได้ยาก แต่ด้วยความสามารถของเทคโนโลยี AI ทำให้แบรนด์สามารถรู้ถึงจุดยืนของตัวเองในตลาด และได้ข้อมูลเชิงลึกจากฐานลูกค้าของตัวเองได้ ด้วยสิ่งเหล่านี้ทำให้แบรนด์สามารถนำมาวางแผน และพัฒนาการสื่อสารบนโซเชียลมีเดียได้ดียิ่งขึ้น
อ้างอิง : analyticssteps